สวัสดีฮะ ตะลุยแหลกแต่ละครั้งเรามีความเชื่อว่าร้านอาหารที่อร่อย ๆ มักจะอยู่ใน “หลึบ” ที่เราไม่ค่อยรู้กันครับ (นอกจากคนในพื้นที่) ครั้งนี้ก็เช่นกัน เราจะพาไปกินที่ ร้าน meatfeat กับอาหารสไตล์กึ่ง ๆ Izakaya (อิซากายะ)ให้คุณได้นั่ง Chill พร้อมแกล้มอาหารแบบ Bar and Grill ในราคาเบาเบา เป็นอาหารแนวเทปันยากิสไตล์ญี่ปุ่น อยู่ในซอยเล็ก ๆ ย่านหอพักนักศึกษามหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ไฮไลท์ของร้านนี้ลักษณะเป็นครัวเปิดที่เราจะเห็นเชฟประกอบอาหาร ตรงหน้าเรากันเลยทีเดียว
สำหรับใครไม่รู้ Izakaya (อิซากายะ) คืออะไร ??? Izakaya จะเป็นอาหารแนวปิ้งย่าง ชาบู เทปันยากิ ซาชิมิปลาดิบ ปลาย่าง ข้าวปั้นต่าง ๆ อาหารที่เสิร์ฟส่วนใหญ่เหมาะกับ อาหารแกล้มเหล้า (สาเก) อาหารจานเดียว ของทานเล่น
โดย ร้าน Meatfeat อยู่แถวอยู่ประชาชื่น-นนทบุรี ซอย 8 เยื้องกับมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
การเดินทางไปยังร้าน เมื่อถึงด้านหน้ามหาวิทยาลัยฯ แล้วให้เดินย้อนขึ้นมาจะเห็นคิวรถตู้ และเครื่องบินลำใหญ่จอดนิ่งตายสนิทอยู่ ให้เราเดินผ่านมาเรื่อย ๆ เลยครับ
เจอกับป้ายซอยประชาชื่นนนทบุรี 8 หรือซอย 8 ให้สังเกตป้ายที่เขียนว่า ซอย 8 ขนาดใหญ่ ๆ ถ้าเจออันนี้เรามาถูกทางแล้วนะครับ
เดินเข้าไปจากปากซอยประมาณ 300 เมตร *แนะนำหาที่จอดรถนะครับ ซอยขนาดเล็กหาที่จอดรถลำบากนิดนุง
เดินเข้าไปเรื่อย ๆ เลยครับ จะผ่านร้านอาหาร ร้านขนม ร้านสะดวกซื้อ และหอพักนักศึกษา
ให้เราสังเกตป้ายซอยเพชรรัตน์ 3 อยู่ติดกับเซเว่นอีเลฟเว่นขนาดเล็ก ๆ ด้านซ้ายมือนะครับเป็นซอยย่อย ๆ ของซอย 8 อีกที
ถ้าเจอป้ายซอยเพชรรัตน์ 3 นี้ไม่หลงทางแล้ว!
และเดินมาอีกนิดก็เจอเซเว่นอีเลฟเว่นขนาดใหญ่ ไม่ห่างกันมากนะอยู่ด้านขวามือ อยู่หัวมุมซอยเพชรรัตน์ 3/2
ให้ยึดฝั่งเซเว่นอีเลฟเว่นขนาดใหญ่เอาไว้นะครับ เพราะว่าจะใกล้ถึงร้านแล้ว
ร้าน Meatfeat อยู่ระหว่างซอยเพชรรัตน์ 3/4 ก่อนถึงซอยเพชรรัตน์ 3/6
ร้านอยู่ด้านขวามือเป็นอาคารปูน 2 ชั้น ขนาดเล็กมาก ๆ จุดสังเกตเป็นห้องกระจกใส ๆ ภายนอกเป็นโลโก้รูป วัว หมู ไก่ มองกันออกหรือเปล่าครับ นั้นล่ะครับ คือ ร้าน Meatfeat อาหารสไตล์ Izakaya (อิซากายะ) ที่เราจะมาตะลุยแหลกกัน ตามลูกศรภาพด้านล่างเลยครับ
ร้านเปิดให้บริการตั้งแต่ 4 โมงเย็นจนถึงเที่ยงคืน ร้านเค้าเปิดตอนเย็น ๆ ไม่ได้เปิดกลางวันนะครับ
หน้าร้านจะมีเมนูอาหารต่าง ๆ และเครื่องดื่ม บอกเวลาเปิดของทางร้าน
มาชมบรรยากาศของทางร้านดีกว่า ภายในร้านเป็นร้านเล็ก ๆ อบอุ่น ๆ
มีโต๊ะพร้อมเก้าอี้ 4 ตัวเล็ก ๆ ไม่ใหญ่มากนะ นับคร่าว ๆ ประมาณโต๊ะ 5 ชุด
หันมาทางฝั่งด้านหน้าเป็นเคาน์เตอร์บาร์มีเก้าอี้ 11 ตัว ทรงสูงหน่อย ถ้าใครไม่ถนัดนั่งแบบนี้ อาจจะหงายท้องได้นะครับ ไม่แนะนำ! นะครับ
ถ้าใครมานั่งเคาเตอร์บาร์ เราจะได้เห็นเชฟประกอบอาหารกันตรงหน้าเลยครับ เห็นตั้งแต่ขั้นตอนเตรียมวัตถุดิบ ยันจนถึงประกอบอาหารในแนวเทปันยากิ กับกะทะเหล็กร้อน ๆ ยิ่งกว่า 4 มิติอีก!
ชมบรรยายกาศร้านหมดคร่าว ๆ แล้ว ท้องร้องจ๊อก ๆ หันดูเมนูและสั่งอาหารกันดีกว่าครับ มีอะไรน่าสนใจ
เมนูของทางร้าน Meatfeat ที่นี่มีหลากหลายรายการ แบ่งออกเป็น
- Something Appetite อาหารเรียกน้ำย่อย
- Dish of Teppanyaki อาหารพวกเทปันยากิ ผัดซอสสูตร ไวท์แดง , BBQ และฮินเล
- Anything Special อาหารพวกจำพวกพิเศษเฉพาะ
- Drinks เครื่องดื่มต่าง ๆ เห็นว่าในอนาคตอาจจะมีพวกสาเกด้วยครับ
โดยที่นี่จะเสิร์ฟอาหารจานเดียว คล้ายกับข้าวอ่ะครับ ไม่มีราดข้าวมานะครับ
เนื้อสัตว์ที่มีหลัก ๆ ก็เนื้อ หมู ไก่ ผัดกับกระทะเหล็กแบน ๆ
สนนราคาอาหารจานหลักแต่ละประเภท เนื้อก็ 70 บาท หมูและไก่ราคาจะเท่ากันครับ 50 บาท ส่วนเมนูอื่น ๆ ก็แตกต่างกัน
รอบแรกผมสั่ง เนื้อติดมันพริกไทยดำ, เนื้อไวน์แดง, ซุปข้นเนื้อ และน้ำซุปใสไชเท้า
สั่งเสร็จปุ๊บ! ขอเชฟถ่ายรูปตั้งแต่เตรียมยันใส่จานสักหน่อย
เชฟค่อย ๆ หั่นเนื้อ ชิ้นพอดีคำ จังหวะในการหั่นไม่ช้ามาก หันไปอีกทีมาโผล่มาที่เตาเลย
ตัดภาพมาที่เตา เชฟเริ่มผัดเนื้อสัตว์ และปรุงส่วนผสมต่าง ๆ ตามรูปแบบเทปันยากิ
*เป็นรูปแบบหนึ่งของอาหารญี่ปุ่นที่ใช้กระทะเหล็กแบนในการประกอบอาหารในประเทศญี่ปุ่น เทปปันยากิจึงหมายถึงอาหารที่ทำให้สุกโดยกระทะเหล็ก ทั้งนี้รวมถึง สเต็ก กุ้ง โอโคโนมิยากิ ยากิโซบะ และ มอนจายากิ (จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี)
เชฟมีความมุ่งมั่นมากในการทำอาหาร (เขียนเวอร์ไปไหมเรา!)
แป๊บเดียว! เสร็จแล้วอาหารของผม เชฟใช้เวลาในการทำอาหารไม่นานมากนะ ทำค่อนข้างเร็ว
ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นเพราะเป็นกะทะเหล็ก ทำให้อาหารสุกเร็วด้วยล่ะมั้ง (เข้าใจถูกไหมเนี่ย)
ตัดภาพกลับมาครับท่านผู้ชม! อาหารมาอยู่ตรงหน้าแล้ว
เริ่มจากแถวบน น้ำซุปใสไชเท้า เนื้อไวน์แดง ถัดลงมา ซุปข้นเนื้อ เนื้อติดมันพริกไทยดำ
เริ่มจากจานแรก เนื้อติดมันพริกไทยดำ ที่รสชาติของพริกไทยดำค่อนข้างโดนเด่นมากครับ ผสมผสานกับเนื้อที่แทรกติดมันหน่อย ๆ ผัดเข้ากันกับพริกไทยดำที่เม็ด ๆ ทำออกมารสชาติเข้ากันดีครับ อร่อยครับ และไม่มีกลิ่นเหม็นสาบของเนื้อด้วยครับ ถ้าใครชอบแนวพริกไทยดำ แนะนำจานนี้เลยครับ
รับสักชิ้นไหมครับ!
จานถัดมา เนื้อไวน์แดง ที่ผัดกับไวท์แดงและส่วนผสมประกอบอื่น ๆ ร่วมกัน รสชาติมีออกหวาน ๆ หน่อยนะครับ เมื่อกินเข้าไปแทบไม่ได้รู้สึกเลยว่ามีไวน์แดงเป็นส่วนผสมเลยครับ เนื้อที่ผัดจากไวน์แดงเนื้อนุ่น ไม่เหนี่ยวดีครับ
แต่จานนี้ผมไม่ค่อยอิน ไม่ฟินกับมันเท่าไหร่นัก เพราะผมไม่ใช่คอไวน์แดง ถ้าใครเป็นคอไวน์แนะนำจานนี้
รับ เนื้อไวน์แดง ๆ ไปหม่ำสักจานไหมกันครับ
กินเนื้อเข้าไป 2 จานแล้ว อาจจะเริ่มเลื่อน อยากแนะนำซุปร้อน ๆ ซดคล่องคอดี มีอยู่ 2 ซุป คือ ซุปข้นเนื้อ , ซุปใสไชเท้า
ซุปข้นเนื้อ รสชาติกลมกล่อม ได้กลิ่นอ่อน ๆ ของเครื่องเทศ อร่อยดีครับ แต่ต้องกินตอนร้อน ๆ นะครับ ไม่งั้นเสียรสชาติหมด (พี่เจ้าของร้านบอกมา!)
ต่อน้ำซุปใสไชเท้า ผมให้เป็นรองจากซุปข้นเนื้อนะครับ เพราะรสชาติไม่เข้มข้มเท่าไหร่นะแต่มีความหอมของไชเท้า ซดร้อน ๆ แก้เลี่ยนได้ดีทีเดียวเลยครับ
สองจานสุดท้าย ผมสั่งเพิ่มเติมมาครับ
หมูตุ๋นฮินเล มาพร้อมกับมะนาวและน้ำจิ้มแจ่ว หมูตุ๋นใช้เวลาตุ่นมากกว่า 3 ชั่วโมง ผัดเข้ากันกับเครื่องเทศ รสชาติอารมณ์คล้าย ๆ ผงกะหรี่ กินเข้าไปหมูเปื่อยละลายในปาก ฟินสุด ๆ ไปเลยครับ ได้กลิ่นเครื่องเทศอ่อน ๆ ถ้าใครไม่ชอบหรือเลี่ยนจากเครื่องเทศ ทางร้านได้เตรียมมะนาวชิ้นเล็กไว้ให้
ผมลองบีบมะนาวเล็กน้อยลงบนหมูตุ๋นช่วยแก้ตัดเลื่ยนได้ครับ รสชาติจะออกเปรี้ยว ๆ
ลองจิ้มกับน้ำจิ้มแจ่วก็ได้รสชาติของอาหารอีสาน อาหารจานเดียวเปลี่ยนอามรณ์ได้หลากหลายรสชาติ
สั่งข้าวญี่ปุ่นมากินคู่กับหมูตุ๋น เป็นข้าวสีขาวเนียนนุ่มเม็ดกลม ๆ โรยงาดำและสาหร่ายนิดหน่อย ทานคู่กับหมูตุ๋นฮินเล อร่อยมากเลยครับ ข้าวนุ่มกับหมูตุ๋นที่กัดเข้าไปละลายในปาก โอ๊ย! นะจุด ๆ นี้ตายครับ
แต่แอบเสียดายไม่ได้สั่งไข่ดาวมาด้วยอ่ะสิ เพราะทางร้านบอกว่าถ้าทานคู่กับไข่ดาวด้วย จะเข้ากันมาก ๆ (ไม่เป็นไรรอบหน้าไปใหม่)
อร่อยจริง ๆ นะ (หรือว่าผมชอบคนเดียวหว่า!)
ตบท้ายด้วย ฟักทองญี่ปุ่นทอด ร้านนี้ยังไม่มีของหวาน หรือของทานเล่น
แต่ทางร้านแนะนำเมนูนี้ให้สั่งทานเล่นดูครับ ดูออกแนวสุขภาพดีฮะ
หั่นออกมาชิ้นเล็ก ๆ เนื้อนุ่ม และแน่น กินกับเกลือที่ผัดออกมา รสชาติแปลกดี ออกเค็ม ๆ มัน ๆ หน่อยครับ
ชิ้นพอดี ๆ ไม่ใหญ่โตมาก!
สรุปค่าอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมด 455 บาท ทางร้านคิดแค่ 385 บาท
ไม่ได้คิดราคาของเมนู “หมูตุ๋นฮินเล” ไปหนึ่งจาน ผมกลัวร้านพี่จะขาดทุนที่ลืมคิดเมนูไปนี้อ่ะครับ เลยทักทวงไป แล้วมันก็จริง ๆ ด้วย
สำหรับค่าอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมดได้รับ SPECIAL VOUCHER 350 บาท จากเว็บไซต์ revu.net มาครับ
สรุปตะลุยแหลก ร้าน Meatfeat อาหารสไตล์ Izakaya (อิซากายะ)
- เมื่อถึงด้านหน้ามหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ แล้วให้เดินย้อนขึ้นมา ร้านอยู่แถวซอยประชาชื่นนนทบุรี ซอย 8
- ไม่มีที่จอดรถนะครับ ต้องหาที่จอดรถจากข้างนอกครับ แล้วเดินทางเข้าไปประมาณ 300 เมตร
- ร้านมีขนาดเล็ก ๆ ในซอยระหว่างซอยเพชรรัตน์ 3/4 ก่อนถึงซอยเพชรรัตน์ 3/6
- ครัวในการประกอบอาหารเป็นลักษณะครัวเปิด ที่จะเห็นเชฟทำอาหารสด ๆ ต่อหน้าเราเลย
- ที่นั่งไม่ค่อยเยอะมากนะ แนะนำให้สอบถามทางร้าน เพื่อจองโต๊ะได้ที่ 089-891-1155
- ราคาอาหารเบาเบา เริ่มต้นที่ 30 – 70 เท่านั้นเอง พกเงินไม่กี่ร้อยบาทก็อิ่มท้องได้แล้วครับ
- เมนูแนะนำของทางร้าน เนื้อติดมันพริกไทยดำ , เนื้อไวน์แดง , ซุปข้นเนื้อ และน้ำซุปใสไชเท้า แต่ผมชอบ “หมูตุ๋นฮินเล” มากกว่าฮะ เปื่อยอร่อยละลายปาก ฟินสุด ๆ แนะนำเมนูนี้เช่นกัน จากผมเองครับ
- ในอนาคตพี่เจ้าของร้านบอกว่า จะมีเมนูอาหารและเครื่องใหม่ ๆ ให้ติดตามที่ facebook fan page ทางร้านไว้นะครับ
- ปล. เกือบลืมบอกไปเลย… ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าภายในร้านนะครับ
คะแนนความฟินของอาหารที่ไปกินที่ร้าน Meatfeat (เต็ม 10 คะแนน)
- หมูตุ๋นฮินเล ให้ 10 คะแนนมากที่สุดเลยครับ เพราะผมชอบมากที่สุด หมูเปื่อยอร่อยละลายในปาก แอบไปเห็นมีเนื้อด้วยรอบหน้าจัดไปอีก
- รองลงมา เนื้อติดมันพริกไทยดำ , เนื้อไวน์แดง , ซุปข้นเนื้อ , น้ำซุปใสไชเท้า ฟักทองญี่ปุ่นทอด ให้ 9.5 คะแนน หักความไม่ฟิน อาทิ ไม่ใช่คอไวน์แดง เลยไม่อินเท่าไหร่นัก
- จริงแล้ว อร่อยทุกเมนูจริงนะ! ปริมาณและคุณภาพ ทางร้านเค้าใส่ใจทุก ๆ ด้าน เพราะพี่เขาเดินมาสอบถามที่โต๊ะผมเป็นระยะ ๆ ต้องการรับอะไรเพิ่มหรือเปล่า
ติดตามข่าวสารของทางร้าน Meatfeat
- facbook : fb.com/meatfeat
- โทรติดต่อทางร้าน 089-891-1155 ร้านเปิดบริการทุกวัน 16.00 – 24.00 น. (4 โมงเย็น – เที่ยงคืน) ไม่ได้เปิดกลางวันนะครับ
[…] […]